วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2554

50 สุดยอดเทคโนดีไซน์แห่งปี จาก yankodesign Best of Yanko Design 2011


Tech Design 2011 – คุณว่าอะไรคือความสำเร็จของต้นแอปเปิ้ลที่นาย สตีฟ จ๊อบส์ ปลูกไว้ ? … แน่นอนคุณอาจจะรู้สึกเอียนขึ้นมา หากกระทู้นี้จะเริ่มต้น ด้วยการอวยบุรุษคนนี้กันอีกสักรอบ สองรอบ แต่หากย้อนกลับไปดูสิ่งที่เกิดขึ้นกับแบรนด์เทคโนโลยีเจ้านี้ แม้คุณจะเข้าข่ายแอนตี้แฟนแอปเปิ้ล ก็คงอดเห็นด้วยไม่ได้ 

เพราะมันเป็นอะไรที่อธิบายส่วนผสมของเทคโนโลยีกับงานศิลป์ได้อย่างชัดเจน เรียบง่าย ตรงประเด็น เน้นประสบการณ์ ดังคอนเซ็ปต์ที่ว่า ” Think Different “  หากยังไม่ค่อยเกท ให้ที่สุด 50 ความลงตัวแห่งปี จากyankodesign ด้านล่างนี้ เป็นซีรีส์ชี้ทางเถอะ !!


Racer Bike





 ฟิกเกียร์อาจจะเป็นทางเลือกของการขับขี่ที่รวดเร็ว
แต่เดี๋ยวก่อนมันพับเก็บ แล้วหิ้วได้หรือเปล่า?
Designer: Allen Chester G. Zhang


Rapunzel Escape Device





Red Dot Concept Award  2010 Winning Entry <
รู้จักนิทานอย่างราพันเซล ที่อยู่บนหอคอยสูงๆ ไหม
สิ่งนี้สามารถช่วยให้คุณปีนไปยังที่ไหนๆ ได้ง่ายดาย
ป.ล. ไม่แนะนำเพื่อประกอบลีลาโจรกรรม !!
Designer: Sin Sun Ho


Plug Cup





ด้วยความร้อนสูงสุดที่ 180 องศาเซลเซียส
พร้อมเสริมประสิทธิภาพอุณหภูมิ 2 ทิศทาง จากปลั๊ค และฐาน Heater  plate
ขอบคุณจริงๆ ที่ทำให้มนุษย์กว่าค่อนโลก ไม่ต้องซดกาแฟเย็นชืด หลังตั้งทิ้งไว้เพียงครู่ !!  
Designers: Dong Hun Seo, Geun Hyuk Yoo, Ki Sang Yoon & Yune Jae Bang


Ferrari Millenio





ถามจริงๆ ดีไซน์ เฟอรารี่ Future คอนเซ็ปต์
แห่งทศวรรษหน้าคันนี้ ไม่ทำให้คุณรู้สึกอะไรเลยหรอ?
Designer: Marko Petrovic




Flexbook





“สวัสดีชาวโลก ขอเชิญพบกับ อีบุ๊ค – แท็บเล๊ต – โน๊ตบุ๊ค ,
โน๊ตบุ๊ค - แท็บเล๊ต – อีบุ๊ค , แท็บเล๊ต – อีบุ๊ค - โน๊ตบุ๊ค “
เอาเป็นว่าอยากได้ร่างไหน ก็หมุนเอาแล้วกันเนาะ !! -_-”
Designer: Hao-Chun Huang


Bairim Luxury-yacht







เราชอบ intro ของสตอรี่นี้จัง เค้าว่า
” Sell the house, sell the car, sell the kids (kidding!)  แล้วไปอยู่ยอร์ชลำนี้กัน “
เอาเข้าจริง อีกไม่นานนักมนุษย์โลกคงได้อยู่บนเรือแบบถาวร ( kidding  too!)   ;)
Designer: Timon Sager


Villa Amanzi




การเดินทางมาพบกันอย่างลงตัว ระหว่างดีไซน์กับธรรมชาติ จนได้รับการขนานนามว่า
สวรรค์แห่งการพักผ่อน มันเกิดขึ้น ณ ภูเก็ต ไทยแลนด์ นี่เอง เย้!!  \^o^/
และอีกมากมายที่  http://tech.mthai.com/gadget/12828.html

วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ชนิดของนม (Types of Milk)

หลายคนคงคิดว่านมนั้นมีเพียงไม่กี่ประเภท โดยอาจจะรู้จักแค่ นมสด นมไขมันต่ำ นมเปรี้ยว นมข้น แต่แท้ที่จริงแล้วนั้น นมมีอยู่มากมายหลายประเภท โดย อาจจะแบ่งออกตามกระบวนการผลิต หรือ ชนิดของนมนั้นๆ วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่านมแต่ละชนิดนั้นเรียกกันในภาษาอังกฤษว่าอย่างไร
 
 
1. Whole / Full cream Milk / Full Fat Milk นมครบส่วน หรือ นมไขมันเต็มส่วน
 
 
2. Low Fat Milk นมไขมันต่ำ
 
 
3. Skimmed / Skim Milk นมพร่องมันเนย
 
 
4. Semi-skimmed / Partly skimmed Milk นมกึ่งพร่องมันเนย
 
 
5. Sterilized Milk นมสเตอริไลซ์
 
 
6. Pasteurized Milk นมพาสเจอร์ไรซ์
 
 
7. UHT Milk (Ultra high temperature milk or Ultra heat treated milk) นม ยู เอช ที
 
8. Flavoured Milk นมปรุงแต่ง
 
 
9. Yoghurt / Cultured Milk / Fermented Milk นมเปรี้ยว
 
 
10. Drinking Yoghurt / Cultured Milk / Fermented Milk นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม
 
 
11. Soy Milk นมถั่วเหลือง
 
 
12. Evaporated / Condensed Milk นมข้น
 
 
13. Sweetened Condensed Milk นมข้นหวาน
 
 
14. Dried / Powder Milk นมผง
 
 
15. Humanized / Modified Milk นมผงดัดแปลง
 
 
16. Recombined Milk นมคืนรูป
 
 
17. Reconstituted / Recombined milk นมคืนรูป
 
 
เป็นยังไงกันบ้าง หลายคนคงตกใจละสิว่า ทำไมนมถึงมีมากมายหลายชนิดอย่างนี้ แต่ถ้าจะเอาจริงๆแล้วยังมีนมอีกเยอะเลยครับที่ไม่ได้พูดถึง เช่น นมประเภทต่างๆสำหรับทารก นมสำหรับผู้สูงอายุ และอื่นๆครับ เอาเป็นว่า จำคำศัพท์ที่สำคัญๆ และคิดว่าจะได้ใช้ก่อนก็พอแล้ว เดี๋ยวจะงงไปกันใหญ่

Nice pic :)

รวมภาพArtสวยๆแปลกๆจากศิลปินท่านต่างๆ






































และอีกมากมายใน http://tech.mthai.com/software/12597.html

วิธีการใช้ภาษาอังกฤษเรียกคนใกล้ชิดแบบไม่เป็นทางการ

หากพูดถึงประธานที่ใช้กันในชีวิตประจำวันแล้ว คงจะหนีไม่พ้น “I, You, We, They, He, She, It” ที่เราได้เรียนรู้กันมาจากตำราต่างๆ แต่รู้หรือไม่ว่า ในชีวิตจริงแล้ว มีคำมากมายที่สามารถนำมาใช้แทนคำเหล่านี้ได้ วันนี้เราลองปิดตำราทั้งหลาย แล้วเปิดโลกทัศน์ด้วยคำต่างๆที่เราควรจะรู้ไว้เพื่อใช่สื่อสารภาษาอังกฤษแบบไม่เป็นทางการ (Non-formal English) กันดีกว่า



คำที่ใช้เรียก “ผู้หญิง” บางคนอาจจะงงว่าทำไมอยู่ดีๆพึ่งจะรู้จักกับฝรั่ง แล้วทำไมเขาถึงเรียกเราว่าที่รักด้วยคำต่างๆนานา คำตอบก็คือ คำเหล่านี้สามารถนำมาใช้เรียกแทนตัวเราได้ ซึ่งก็ได้แก่คำว่า
Gorgeous, Sweetie, Sweetheart, Sister, Sis, Love, Darling, Honey, Baby, Girl, Gal, Dear, Sugar, Cutie, Chick


คำที่ใช้เรียก “ผู้ชาย” สำหรับผู้ชายแล้ว คำที่ใช้ต่างๆนั้นจะเน้นไปถึง ความสัมพันธ์แบบพี่น้อง (Brotherhood) หรือ คำที่บ่งบอกถึงมิตรภาพ (Friendship) ไปเสียส่วนใหญ่ เช่น
Man, Boy, Brother, Fella, Fellow, Dude, Buddy, Mate, My friend, Boss, Chief
คำที่ใช้เรียก ”กลุ่มเพื่อน” อาจใช้คำว่า Guys, People, Fellas, Gang, Gangsta, Chicks (แทนกลุ่มผู้หญิง)
คำที่ใช้เรียก “เด็ก” เช่น Kid, kiddo
คำที่ถูกย่อให้สั้นลง (Short forms) เป็นที่รู้กันว่าศัพท์แทบทุกคำที่นิยมใช้กันอยู่บ่อยๆ มักจะถูกย่อให้สั้นลง ซึ่งก็รวมไปถึงคำเหล่านี้ด้วย:


   Hun – มาจากคำว่า Honey
   Babe – มาจากคำว่า Baby
   Sis – มาจากคำว่า Sister
   Bro – มาจากคำว่า Brother
   Darl – มาจากคำว่า Darling


คำว่า “ที่รัก” แบบหวานแหวว - สำหรับคนที่เบื่อที่จะใช้คำว่า “Tee Rak” ในการเรียกแฟนตัวเองบน BB หรือ ใน SMS ต่างๆ แล้วกำลังมองหาคำอื่นอยู่ สามารถลองใช้คำเหล่านี้ดูได้ รับรองแปลก ไม่เหมือนใคร แถมยังฟังดูน่ารักอีกด้วย:
Cutie Bunny, Cutie Pie, Sweetie Pie, My Little Sunshine, My Sunshine, My pumpkin, Honey Bunny (Hunni Bunni), My Little Cupcake, Cupcake, honeybunch, My Boo (My Baby)

  *เราสามารถนำคำเหล่านี้ไปใช้เรียกเด็กได้เช่นกัน
  *การใช้คำว่า My หรือ Your เข้ามาเสริมคำต่างๆ อาจจะช่วยเพิ่มความหวานขึ้นอีกเท่าตัวหนึ่ง เช่น Your Sweetie Pie, Your pumkin, You are my little angel และอื่นๆ




และนี่คือตัวอย่างการใช้คำเรียกคนใกล้ชิดในเพลงนี้นะครับ my boo : Usher ft. Alicia Keys